แม่มาปะแหลบมันตึงปะแหลบสมชื่อ แจ้งมามันก็ด่าลูกตังวันๆ จนผู้เป็นผัวปอรำคาญ ว่าหยั่งใดก็บ่ได้ เป็นคนบ่ยอมฟังเหตุผลอะหยังซักอย่าง เอาก้าความคิดตนเองเป็นใหญ่ เอาก้าด่าลูกจนปอบ่าวไปแอ่วหาลูกสาวบ่ได้ จนลูกสาวเป็นสาวเฒ่า แต่ก็บ่พ้นกรรม ต่อมาลูกสาวก็ได้ผัว ทีนี้พอลูกสาวคนแรกได้ผัว คนที่สองก็ยังเคิ้นอยู่ ปู่มอยก็มาปรึกษากับลูกเขยว่าจะเยียะหยั่งใดจึงจะดัดสันดานเมียตัวเองคือย่ามาได้ พอปรึกษาไปปรึกษามาก็ว่าหื้อลูกชายไปทานขันข้าวหื้อย่ามาในวันเข้าพรรษา ลองผ่อมันจะปันพรช่างก่อ พอวางแผนเรียบร้อยถึงวันเข้าพรรษา ลูกเขยก็ดาข้าวเสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นไปบนบ้านย่ามา พอลูกเขยขึ้นไปบนบ้าน ปู่มอยก็ลงบ้านเพราะว่ารู้เรื่องกันละ ปู่มอยก็สดลงบ้านไปวัดเหีย ละหื้อย่ายามารับขันข้าวคนเดียว ทีนี้พอลูกเขยแยงขันข้าวเรียบร้อยแล้ว ย่ามาก็ปันพรบ่ช้าง ยักซ้ายยักขวา แปงหั้นแปงนี่ มันบ่รู้ว่าจะปันพรอย่างใด เอาเข้าๆ ลูกเขยมันก็อดบ่ได้
“อี่แม่ เอาเหียกำแล่” ย่ามาก็เลยเอื้อมมือไปเปิดผ่อ
“เอ้อ เห้ย…จิกปิกข้าวหนมจ็อก จ็อกป็อกห่อหนึ้ง แดงปึ้งหลึ้งมันแก๋ว แหลวล่องแล่งหลู้ เอาไปใส่ตู้หื้ออี่แม่กำ”
อันนี้เป็นเรื่องของคนปากมากนักแล้วบ่ได้เรื่องได้ราว