นิทานพื้นบ้านภาคใต้

ภาคใต้ เมืองติดชายทะเลหลายจังหวัด วัฒนธรรมทางภาคใต้เป็นวัฒนธรรมที่มีจุดเด่นเป็นอย่างมาก ทั้งสำเนียงภาษาที่เมื่อพูดออกมาแล้วก็สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นคนทางภาคใต้ ภาษาของคนภาคใต้มักจะมีสำเนียงเป็นของตัวเอง ค่อนข้างพูดเร็ว และยังมีวัฒนธรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ มโนราห์ หนังตะลุง และนิทานพื้นบ้านเรื่องต่างๆที่ถูกเล่าต่อๆกันมา กว่าจะมาเป็นวัฒนธรรมที่ได้เห็นได้ชัดกันจนทุกวันนี้ ได้มีประวัติความเป็นมาและเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย

นิทานพื้นบ้านภาคใต้ เรื่องหนูกัดเหล็ก

“…มีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ร่วมกัน เป็นครอบครัวเศรษฐี เศรษฐีผู้เป็นพ่อนั้นมีเงินทองมากมาย มีลูกชายอยู่หนึ่งคนที่มีนิสัยเกเร ไม่เอาการเอางาน กินเหล้าไปวันๆ กิจการต่างๆที่ผู้เป็นพ่อสร้างไว้ก็ไม่สานต่อ กิจวัตรประจำวันของลูกชายคือการใช้เงินที่มีอยู่ วันหนึ่งเศรษฐีจึงเอาเงินทองส่วนหนึ่งไปฝังลงไว้ที่ตุ่มใต้ดิน หลังจากนั้นก็ตรอมใจตายจากพฤติกรรมของลูกที่นับวันก็ยิ่งแย่ลง

ลูกชายเศรษฐี เมื่อผู้เป็นพ่อจากไป ก็ได้ใจ ใช้เงินอย่างไม่ระวัง กินเหล้ากับเพื่อนอยู่สม่ำเสมอ ไม่เว้นวัน จนกระทั่งเงินทองที่มีอยู่นั้นเริ่มหมดลงไป แต่ก็ยังอยากกินเหล้ากับเพื่อนๆอยู่ วันหนึ่ง เพื่อๆของเขาได้ชวนกินเหล้าเมายา แต่ตัวเองนั้นไม่มีเงินอีกต่อไปแล้ว เพื่อนๆจึงบอกว่าถ้าอยากมาร่วมวงก็ต้องเอาไก่มาหนึ่งตัวเพื่อที่จะมาร่วมวงเหล้ากินด้วยกัน ด้วยความที่อยากกินเหล้าร่วมวงกับเพื่อน เขาก็เลยจับไก่หนึ่งตัวถอนขน และต้ม ห่อใส่ใบตองเตรียมเดินทางไปวงเหล้า แต่ระหว่างทาง มีอีกาตัวหนึ่งบินโฉบมาเอาห่อใบตองของเขาไปกินเสียแล้ว เมื่อถึงวงเหล้า เขาก็ได้เล่าให้เพื่อนๆฟัง ว่าอีกาตัวหนึ่งได้บินมาเอาห่อใบตองที่ห่อไก่เอาไว้แล้ว มากินเหล้ากับเพื่อนคราวนี้เขาจึงไม่ได้มีไก่มาตามสัญญา เพื่อนๆของเขาก็พากันพูดถากถาง ว่าเป็นเรื่องไม่จริง แม้จะเป็นความจริง แต่เพื่อนๆก็ไม่มีใครเชื่อเขาเลยแม้แต่น้อย หาว่า “ไม่มีปัญญาหาไก่มากิน แล้วยังโทษอีกาอีก” ลูกเศรษฐีที่ตอนนี้ยากจนยิ่งนัก เกิดความเจ็บความอายเป็นอย่างมาก เดินกลับบ้านไปด้วยความเจ็บใจ คิดถึงช่วงตอนที่มีเงินทอง

ตัวเศรษฐีผู้เป็นพ่อนั้น ได้ไปเกิดเป็นเทวดา ทนเห็นสภาพการตรอมใจของลูกชายไม่ได้ จึงได้ตัดสินใจมาเข้าฝันเพื่อบอกที่ฝังสมบัติ ลูกชายตื่นขึ้นมาไปขุดเจอตามที่พ่อนั้นบอก ก็เลยตั้งใจทำงาน เริ่มจากทุนที่มีอยู่ จนมีกินมีใช้อีกครั้งได้ และร่ำรวยได้ในเวลาไม่นาน เห็นดังนั้นจึงได้นัดเพื่อนที่เคยดูถูกเอาไว้ มากินเหล้าด้วยกันอีกครั้ง ในขณะที่เขากำลังนั่งกินเหล้าด้วยกัน ชายหนุ่มตอนนี้ซึ่งเป็นเศรษฐี ได้หยิบมีดสั้นเหี้ยนๆขึ้นมาหนึ่งเล่ม แล้วบอกกับเพื่อนๆว่า หนูมันได้กัดเหล็กตรงมีดไปหมด พอพูดขึ้นมา เพื่อนเขาต่างก็พูดกันมาคนละคำสองคำว่า เออ ใช่ๆ มีดที่บ้านข้าหนูก็มากัดเช่นเดียวกัน เขาคิดในใจว่า นี่สินะ พอยามจน ยามลำบาก พูดความจริงก็เหมือนไม่มีน้ำหนักเอาเสียเลย แต่เมื่อร่ำรวย มีอำนาจมากขึ้น แม้เรื่องโกหก พูดไปก็มีน้ำหนัก มีคนเห็นดีเห็นงามตามไปด้วย นิทานเรื่องนี้ก็เลยเป็นนิทานที่ผู้เฒ่าผู้แก่ทางภาคใต้นั้นเล่าให้ลูกหลานฟัง เพื่อเตือนสติและเตือนใจเสมอมา

นิทานบางเรื่องของทางภาคใต้ ก็มักจะพูดถึง วัฒนธรรมและความสวยงามของภาคใต้ ความงามของทะเล ทำให้เรารู้จักภาคใต้มากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม นิทานทุกเรื่องสร้างขึ้นมาเล่าก็เพื่อสอนให้คนเป็นคนดีทั้งนั้น